การใช้สมองแบบไม่พักและขาดการจัดการที่ดี สิ่งที่ตามมา คือ สมองเสื่อมก่อนวัย
หัวข้อบรรยาย : ความจำ!!! จะทำอย่างไรดีเมื่อสมองแก่เร็วกว่าวัย
บรรยายโดย : นายแพทย์ ตนุพล วิรุฬหการุณ
(ผอ.ศูนย์ Bangkok Royal Life Anti-Aging)
ที่มาคลิป : รายการใกล้หมอชะลอวัย
ข้อที่ 1 เราเรียนรู้ที่จะเอาเข้าทุกวัน ก่อนจะนอนนั่งขัดเกลาและปลดปล่อยออกไปสิว่าเรื่องอะไร ที่เราแก้ไม่ได้ มันติดอยู่ในใจเรา ให้พยายามวางลงไปบ้างนะครับ สวดมนต์บ้าง นั่งสมาธิบ้าง นี่คือ ข้อที่ 1 ในการชาร์จพลังสมอง
ข้อที่ 2 มีวิตามินหลายกลุ่มในปัจจุบันที่เขาวิจัยมาว่า ช่วยในเรื่องของการบำรุงสมองมากขึ้นนะครับ ตัวอย่างที่ 1 พบบ่อยที่สุดและเขาวิจัยมาเยอะที่สุด คือ ใบแปะก๊วย นะครับ ใบแปะก๊วย ภาษาอังกฤษ เรียก กิงโกะ หลายคนไปกินเม็ดกิงโกะ เวลาไปกินโต๊ะจีน ไม่มีมีตัวช่วยความจำนะ อันนั้นเขาเรียกกินไปนึกว่ามี กินใหญ่เลย จริง ๆ อยู่ในใบนะครับ มีสารพิเศษเขาเรียกว่า ฟอสฟาติดิลซีรีน (phosphatidylserine) หรือ สารฟอสฟาติดิลโคลีน (phosphatidylcholine) 2 อย่างนี้ สามารถสร้างให้เซลล์สมองมันงอกมากขึ้น 2 ตัวนี้ คือตัวที่หมอแนะนำว่ากินได้ ในคนที่เริ่มรู้สึกว่าจะสอบแล้วความจำตกลง อยากจะความจำดีขึ้น กินใบกิงโกะหรือเขาเรียก ฟอสฟาติดิลโคลีนแคป หรือเป็นเม็ดมีขายอยู่ตามท้องตลาด ไปเมืองนอกมีอยู่เยอะ อายุมากขึ้นเกินเท่าไหร่ถึงจะกินได้ เอาเป็นว่า อายุเกิน 18 ปีขึ้นไป กินได้หมด แล้ววันหนึ่งประมาณ 1000 mg ช่วยในการเพิ่มเซลล์สมอง
[ขอขอบคุณ นายแพทย์ ตนุพล วิรุฬหการุณ อย่างสูง ไว้ ณ ที่นี้ด้วย]
[ถอดคำบรรยายจากคลิปคุณหมอ โดย หยินหยาง]
[โปรดแชร์ บทความนี้ ให้กับคนที่คุณรักและเป็นห่วงที่สุดด้วย นะครับ]
บรรยายโดย : นายแพทย์ ตนุพล วิรุฬหการุณ
(ผอ.ศูนย์ Bangkok Royal Life Anti-Aging)
ที่มาคลิป : รายการใกล้หมอชะลอวัย
หนุ่ม ๆ สาว ๆ ท่านไหนที่ตอนนี้เป็นคนขี้หลงขี้ลืม กันบ้างครับ นั่นเป็นอาการบ่งบอกถึงอาการผิดปกติ บางอย่างเกี่ยวกับความจำแล้วนะครับ เพราะฉะนั้นอย่าพลาดชม ใกล้หมอชะลอวัยในวันนี้ หมอแอมป์ มีเรื่องราวดี ๆ เกี่ยวกับความจำ มาฝากกันครับสวัสดีครับ พบกับรายการสุขใจใกล้หมอ นะครับ ในช่วงใกล้หมอชะลอวัยหมอแอมป์ ในอาทิตย์นี้ นะครับ เราจะมาพูดถึงปัญหามหาชน หลายท่านบอก โอ้ หมอแอมป์ ทุกอาทิตย์มีแต่ปัญหามหาชน เพราะสิ่งที่เรามาเล่ากันเนี่ย คือสิ่งที่ทีมงานได้คัดสรร นี่คือ สิ่งที่เราเจอบ่อยนะครับ แล้วก็ถามเข้ามาทางรายการเยอะแยะเต็มไปหมด ในอาทิตย์นี้ เราก็จะมาคุยในสิ่งที่เป็นโรคอย่างหนึ่ง เรียกว่า ความเสื่อมของร่างกาย หลีกเลี่ยงไม่ได้นะ นะครับ
โรคที่เราจะคุยกันถึงอาทิตย์นี้ คือ เรื่องของ “ความจำ” ความจำ คือ เรื่องของสมอง ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ในการแพทย์นี้เนี่ย สมองเป็นสิ่งที่ลึกลับซับซ้อน เราอาจจะมีการวิจัยเยอะในเรื่องของตับ ของไต ของไส้ ของหัวใจตรงไปตรงมา และมนุษย์เรารู้เรื่องพวกนี้เยอะมากเลย มีอยู่ 1 อย่างแม้กระทั่งในปัจจุบัน ขอเท้าความหน่อยนะครับ ปัจจุบัน หลายคนเคยได้ยินเรื่องของสเต็มเซลล์ เรื่องการโคลนนิ่งมนุษย์ เรื่องการโคลนนิ่งลูกแกะดอลลี่ มีมาหลายสิบปี ปัจจุบันเราเข้าใกล้วิทยาศาสตร์เจริญก้าวหน้ามากขึ้นนะครับ 2-3 ปีที่แล้ว มีนักวิทยาศาสตร์ได้รับรางวัลโนเบลนะครับ ในสาขาสเต็มเซลล์เป็นครั้งแรก เป็นคนญี่ปุ่นกับคนอังกฤษ ทั้งสองคนนี้ คิดวิธีทำยังไงในการที่จะสร้างมนุษย์ขึ้นมาใหม่ โดยการใช้มนุษย์คนเดิม อันนี้หมอเล่าให้เหมือนหนังไซไฟนะนะครับ
ความก้าวหน้าของเวชศาสตร์ชะลอวัย
ในปัจจุบันการแพทย์ของเวชศาสตร์ชะลอวัย เราไปไกลถึงขนาดที่เราอยากจะโคลนนิ่ง เมื่อก่อนลูกแกะ เราก็เอาแกะตัวนั้นมาเพาะ ปัจจุบันนี้เนี่ยสิ่งที่ ดร.ชินยะ ยามานากะ กับ Sir John Gurdon ได้รางวัลใหญ่ คือ เขาสามารถ อันนี้เล่าเป็นความรู้ ในการตัดชิ้นเนื้อหรือผิวหนังของคนที่ยังไม่ตายมาใส่ลงในหลอดทดลอง แล้วดึงโดยใส่น้ำยาย้อนกลับไปให้กลายเป็นสเปิร์มเป็นไข่ของพ่อแม่เราก่อนที่จะปฏิสนธิ แล้วก็ใส่น้ำยาอีก 1 ชุดย้อนกลับมาจนเซลล์เหล่านั้นกลายมาเป็นตัวเราอีก 1 คนทั้งตัว ในทฤษฎีทำสำเร็จนะครับ ในเรื่องกฎหมายอาจจะต้องรอสักหน่อย แสดงว่าตอนนี้เราโคลนนิ่งมนุษย์ได้ถูกต้อง สิ่งหนึ่งที่เราทำไม่ได้ เพราะเราทำทุกอย่างได้ แสดงว่าเราทำตับใหม่ได้ในอนาคตนะ
ขนาดหน่วยความจำของสมองมนุษย์
แต่สิ่งหนึ่งที่เรามีความยากลำบากในการวิจัยมากเลย คือเราสร้างได้เกือบทุกอย่างในร่างกายแล้ว แต่เราทำสมองไม่ได้ หมอโคลนนิ่งตัวเองขึ้นมาใหม่ คน ๆ นั้นก็เหมือนหมอทุกประการ แต่มีความทรงจำและสมองไม่เหมือนเรา แต่นี่กำลังจะเล่าให้ฟังว่า สมองคนเราเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อนและบรรจุไปด้วยความจำเยอะที่สุด เคยมีการพูดเล่นๆ ว่า ถ้าเรามีคอมพิวเตอร์ 1 ตัวที่เต็มไปด้วยความจุมหาศาลที่สุดเท่าที่มนุษย์จะคิดได้ เราต้องเอาคอมพิวเตอร์มาวางจนเต็มสนามฟุตบอลถึงจะเท่าสมองมนุษย์หนึ่งสมอง เพราะฉะนั้นแล้วเนี่ย แสดงว่าสมองเรานี้ มีหน่วยความจำหลายล้านเทราไบต์ นี่คือสิ่งสำคัญที่มนุษย์เรานี้ใช้เวลาทั้งชีวิตในการใส่ความจำ ในการมีประสบการณ์ ในการจำสิ่งต่าง ๆ เข้าไป
สมองทำงานช้าลง หากเราจัดการไม่ดี
แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่า ทำอย่างไรในการจัดสรร ระบบระเบียบในสมองให้ดีขึ้น นะคล้าย ๆ กันแหละ ซื้อคอมพิวเตอร์ที่ดีที่สุดมา เหมือนเด็กคนหนึ่งเกิดมาสมองดีมาก แต่ถ้าเราจำบางอย่างเยอะเกินไปโดยเราไม่ลบออกเลย คล้าย ๆ โทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์อันนั้นก็จะทำงานช้าลง บางทีก็แฮงค์ บางทีต้อง Reset ใหม่ ใครเล่น LINE ใครเล่น Facebook ก็จะเห็นว่าโทรศัพท์เวลามีรูปเยอะ ๆ ไม่เหมือนเดิม ไม่เหมือนตอนซื้อมา สมองมนุษย์เช่นกัน
การดูแลรักษาสมองโดยการปล่อยวาง
ความจำเนี่ยไม่มีอะไรฟรี หมอบอกหลายครั้งเนี่ย คนที่สอนในเรื่องนี้และเข้าใจที่สุด ก็คือ พระพุทธเจ้านะครับ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบอกไว้เลยว่า มนุษย์เรา ในการเป็นมนุษย์ 1 คน สุขภาพกาย คือ สิ่งที่สำคัญและสิ่งที่สำคัญกว่านั้น คือสุขภาพใจ มาถึงตรงนี้หลาย ๆ คนเริ่มจะเข้าใจมากขึ้นว่า หมอกำลังจะชี้นำว่า การรักษาสมองอันดับหนึ่ง ที่วิจัยมาโดยตัวหมอเอง อาจจะถูกอาจจะผิด แต่หมอตรวจคนไข้มาเยอะในชีวิตนี้นะครับ คือ การปล่อยวาง การปล่อยวาง คือ การจับสิ่งที่วุ่นวายฟุ้งเฟ้อ เป็นเรื่องราวอันละน้อยใส่เข้าไป แต่มีสักกี่วันที่เราเอามันออก ไม่ค่อยมีเนาะ เปรียบเทียบแล้ว วันนี้อาจจะเทศน์นิด ๆ นะครับ ให้ความรู้ในด้านธรรมะคนที่มีความจำดี สมองยิ่งทำงานหนัก
มนุษย์เรา ตอนเช้าตื่นขึ้นมา อาบน้ำแปรงฟันเรียบร้อย ใส่ชุดเดินออกไปนอกบ้าน ระวังที่สุดไม่ให้เหยียบของไม่ดี ไม่ให้สกปรก ไม่ให้เจอฝุ่นควัน กลับมาถึงบ้านตอนเย็นทุกคนต้องอาบน้ำ ถูกต้อง เพราะมันสกปรก นี่ขนาดระวังที่สุดนะครับ จิตใจและสมองคนก็เหมือนกัน ทุกวันที่เราอยู่คนเดียว ถ้าเราอยู่คนเดียวในบ้าน ปิดห้องเรายังเครียดเลย การออกไปเจอคนเยอะ ทำให้เราคิดเรื่องโน้นคิดเรื่องนี้ แค่รถติดไปทำงาน เจอเจ้านาย มีความเครียดเกิดขึ้น สมองคนเราก็เก็บสิ่งเหล่านี้เข้าไปเสมอ ใครก็ตามที่มีความจำดียิ่งหนักเข้าไปใหญ่โรคเกี่ยวกับสมองเมื่อคนเราอายุมากขึ้น
วันนี้เราจะมาคุยกันถึงว่า ทำยังไงให้สมองอยู่ได้นานที่สุด โดยที่ไม่เป็นโรคที่เรากลัวกัน สองโรคนี้ โรคของความเสื่อมของสมองมีอยู่ 2 โรค ที่เราเจอกันได้บ่อยมากนะครับ แทบจะ มนุษย์ที่อายุเกิน 60 ปีขึ้นไป 2 ใน 3 เป็นโรค 2 อย่างต่อไปนี้ คือ อัลไซเมอร์หรือความจำเสื่อม แล้วก็พาร์กินสัน หรือโรคสมองเสื่อม ทั้งสองอย่างนี้ คือ สิ่งที่เกิดจากการที่เราใช้สมองเยอะ จนเราไม่ได้พัก ถ้าเราทำทุกอย่างดีแล้ว เราจะเป็น ไม่ว่ากันเรามีวิธีชะลอการเสื่อมของสมองอย่างไรบ้าง
วันนี้เรามาดูว่าเราจะทำอย่างไรดี ดังนั้น กฎข้อที่หนึ่งในเรื่องของความจำนี้ สิ่งที่เราจะต้องทำคือข้อที่ 1 เราเรียนรู้ที่จะเอาเข้าทุกวัน ก่อนจะนอนนั่งขัดเกลาและปลดปล่อยออกไปสิว่าเรื่องอะไร ที่เราแก้ไม่ได้ มันติดอยู่ในใจเรา ให้พยายามวางลงไปบ้างนะครับ สวดมนต์บ้าง นั่งสมาธิบ้าง นี่คือ ข้อที่ 1 ในการชาร์จพลังสมอง
ข้อที่ 2 มีวิตามินหลายกลุ่มในปัจจุบันที่เขาวิจัยมาว่า ช่วยในเรื่องของการบำรุงสมองมากขึ้นนะครับ ตัวอย่างที่ 1 พบบ่อยที่สุดและเขาวิจัยมาเยอะที่สุด คือ ใบแปะก๊วย นะครับ ใบแปะก๊วย ภาษาอังกฤษ เรียก กิงโกะ หลายคนไปกินเม็ดกิงโกะ เวลาไปกินโต๊ะจีน ไม่มีมีตัวช่วยความจำนะ อันนั้นเขาเรียกกินไปนึกว่ามี กินใหญ่เลย จริง ๆ อยู่ในใบนะครับ มีสารพิเศษเขาเรียกว่า ฟอสฟาติดิลซีรีน (phosphatidylserine) หรือ สารฟอสฟาติดิลโคลีน (phosphatidylcholine) 2 อย่างนี้ สามารถสร้างให้เซลล์สมองมันงอกมากขึ้น 2 ตัวนี้ คือตัวที่หมอแนะนำว่ากินได้ ในคนที่เริ่มรู้สึกว่าจะสอบแล้วความจำตกลง อยากจะความจำดีขึ้น กินใบกิงโกะหรือเขาเรียก ฟอสฟาติดิลโคลีนแคป หรือเป็นเม็ดมีขายอยู่ตามท้องตลาด ไปเมืองนอกมีอยู่เยอะ อายุมากขึ้นเกินเท่าไหร่ถึงจะกินได้ เอาเป็นว่า อายุเกิน 18 ปีขึ้นไป กินได้หมด แล้ววันหนึ่งประมาณ 1000 mg ช่วยในการเพิ่มเซลล์สมอง
คำแนะนำจากหมอแอมป์ เกี่ยวกับการบริหารความจำของคนเรา
เพราะฉะนั้นแล้ววันนี้เรามาคุยเรื่องความจำ ในช่วงเวลาสั้น ๆ ว่า ทุกอย่างที่ ผู้ชมทางบ้านฟังหมอนะครับ เราจะไม่เน้นว่าต้องมาเจอหมอ แล้วมากินวิตามิน มารักษาที่โรงพยาบาลแล้ว ทุกอย่างจะต้องดีขึ้น เพราะบางคนอยู่ไกล บางคนอยู่ใกล้ บางคนอยู่ต่างประเทศ สิ่งที่เราพยายามจะสื่อให้ประชาชนทางบ้านที่ดูรายการนี้รู้ก็คือว่า ทำยังไงในการที่เราเตือนสติตัวเองสักหน่อย นะครับว่าเราต้องใช้สมองและพักบ้าง เพราะฉะนั้น ทำงานหนักต้องพักให้เยอะ สมองคนเราใครก็ตามที่ใช้โดยไม่หยุดพักเลย ไม่มีคำว่าฟรี สิ่งที่ตามมา คือ สมองเสื่อม ดีไม่ดีเครียดมากเป็นมะเร็งซะอีก กลับไปคืนนี้ก่อนนอนนะครับตรวจเช็คซิว่า อะไรที่มันรกหัว ทิ้งไปซะ เหลือเรื่องสำคัญ เรื่องดี ๆ เอาไว้หน่อยนะครับ ฉะนั้น สวัสดีอาทิตย์นี้เจอกันใหม่ อาทิตย์หน้ากับเรื่องราวสนุก ๆ ในรายการสุขใจใกล้หมอ สวัสดีครับ[ขอขอบคุณ นายแพทย์ ตนุพล วิรุฬหการุณ อย่างสูง ไว้ ณ ที่นี้ด้วย]
[ถอดคำบรรยายจากคลิปคุณหมอ โดย หยินหยาง]
[โปรดแชร์ บทความนี้ ให้กับคนที่คุณรักและเป็นห่วงที่สุดด้วย นะครับ]